เสือมังกรเป็นเกมส์ที่คล้ายกับ บาคาราออนไลน์ แต่จะแตกต่างที่ บาคาร่าจะลุ้นไพ่ 2 ใบ แต่เสือมังกร ลุ้นเพียงแค่ 1 ใบ รู้เรื่องต้มเครื่องแน่นอน และการวางเดิมพันจะแตกต่างกัน บาคาร่าจะวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบมากกว่า และจะสามารถเลือกไพ่ได้ 3 ใบ แต่ไพ่เสือมังกรนั้นไม่สามารถเลือกไพ่ได้ นั่นก็แสดงว่า จะเปิดไพ่ใบเดียวแล้ว ได้กินเงินกันแล้วนั่นเอง แต่ความดีของไพ่เสือมังกรก็มี เช่น ความรวดเร็วในแต่ละเกมส์ ทำให้การแทงไม่ติดขัด ไม่ต้องรอการลุ้นไพ่อะไรมากมาย ความง่ายในการเลือกวางเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินเดิมพันที่ง่ายแสนง่าย มันจึงเป็นเกมที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าบาคาร่าออนไลน์เลยครับ
กติกาการเล่น เสือมังกร
1. ในการวางเดิมพันแต่ละรอบคุณสามารถวางเดิมพันได้ 3 แบบ นั่นก็คือ เสมอ เสือชนะ มังกรชนะ
2. ในแต่ละเกมส์คุณจะมีเวลาวางเดิมพันเพียง 25-50 วินาที แล้วแต่โต๊ะในแต่ละโต๊ะว่ากำหนดเวลาเท่าไหร่ ก่อนที่ดีลเลอร์จะหยุดรับวางเดิมพันแล้วเปิดไพ่
3. คะแนนไพ่แต่ละใบ K=13, Q=12, J=11, A=1 นอกนั้นค่ะแนนของไพ่จะคิดตามตัวเลขหน้าไพ่นั่นเอง
4. การตัดสินแพ้ชนะนั้น จะดูที่จำนวนคะแนของไพ่แต่ละฝั่ง และดีลเลอร์นั้นจะแจกไพ่ฝั่งละใบ เพื่อที่จะเป็นการวัดดวงไปเลยว่า ไพ่ฝั่งไหนจะมีคะแนนมากกว่ากัน
5. หากผลออกเสมอ (Tie) ท่านที่วางเดิมพันในช่อง เสือหรือมังกร จะเสียเงินเดิมพันเพียง 50% เช่นคุณวางเดิมพันเสือ 100 บาท แต่ผลออกมาเป็น เสมอ คุณจะเสียเงินเพียง 50 บาท เหลือทอน 50 นั่นเอง
5 วิธีข้างต้นนี่จะทำให้คุณ แทงได้ง่ายขึ้น และสนุกกับ เกมส์ของทางเราได้มากยิ่งขึ้นกับ pussy888
อัตราการจ่ายเงินเดิมพันของ เสือมังกร ดังต่อไปนี้
- Dragon ทายว่าแต้มรวมของไพ่ฝั่ง มังกร จะเป็นผู้ชนะ จ่าย 1 : 1
- Tiger ทายว่าแต้มรวมของไพ่ฝั่ง เสือ จะเป็นผู้ชนะ จ่าย 1 : 1
- Tie Game ทายว่าแต้มรวมของทั้งสองฝั่งจะออกเสมอ จ่าย 1 : 8
รูปแบบการเล่น เสือมังกร
การวางเดิมพันของ เกมส์คาสิโนสด ไพ่เสือมังกร ก็มีอยู่ 3 แบบ นั่นก็คือการแทง เสมอ เสือ มังกร และแต่ละแบบนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนั่นเอง เราจึงอยากที่จะให้คุณนั้นได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการวางเดิมพันต่างๆ
1. การวางเดิมพันเสมอ
การวางเดิมพันเสมอนั้น ท่านจะชนะก็ต่อเมื่อ ไพ่ทั้งสองฝั่งนั้นมีคะแนนเท่ากัน ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก จึงทำให้อัตราการจ่ายเงินเดิมพันเสมอนั้นมีอัตราการจ่ายที่สูงขึ้นไปด้วย หากคุณแทงเสมอชนะ คุณจะได้รับเงินเดิมพันมากถึง 8 เท่า จากยอดเงินที่คุณวางเดิมพันนั่นเอง
2. การวางเดิมพันฝั่งมังกร หรือ สีแดง
ฝั่งของมังกรนั้น จะเป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ก่อน และจะได้มีโอกาสเปิดลุ้นไพ่ก่อน มันจึงทำให้ไพ่ฝั่งนี้นั้นมีโอกาสที่จะรู้คะแนนก่อนนั่นเอง และมีอัตราการจ่ายที่ 1 : 1
3. การวางเดิมพันฝั่งเสือ หรือ สีน้ำเงิน
เป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ที่หลัง และจะได้เปิดไพ่ที่หลัง มันจึงทำให้ไพ่ฝั่งนี้นั้นมีโอกาสที่สามารถรู้ก่อนว่า คู่แข่งของเรานั้นได้ไพ่อะไรนั่นเอง และมีอัตราการจ่ายที่ 1 : 1
วิธีการเล่น ไพ่เสือมังกร
1. เมื่อเริ่มเกมส์ สมาชิกจะสามารถวางเดิมพันได้ว่า ฝั่งไหนจะมีแต้มที่สูงกว่า ระหว่าง เสือ มังกร หรือ ออก เสมอ
2. ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ มังกร 1 ใบ และแจก เสือ 1 ใบ
3. เมื่อเปิดไพ่จะนับแต้มจากเพียงไพ่ใบเดียว ฝั่งไหนมีคะแนนเยอะกว่าก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะ และจะได้รับเงินเดิมพัน
4. ไม่มีการเรียกไพ่ใบที่ 2 หรือ ใบที่ 3 เหมือนบาคาร่า
ข้อดีของ เสือมังกร
1. อัตราการจ่ายเงินรางวัลเยอะ และยุติธรรม
2. มีหน้าเล่นที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
3. มีการแพ้ชนะที่รวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ชอบความรวดเร็วของเกมส์พนัน
ขอเสียของ เสือมังกร
1. มีความเสี่ยงเยอะ เนื่องจากเป็นเกมส์พนันที่ไว ถ้าดวงไม่ดีก็เสียไวเช่นกัน
2. ไพ่ใบเดียว ลุ้นน้อย เรียกไพ่เพิ่มไม่ได้ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบลุ้นไพ่ยาวๆ
3. ตัวเลือกในการเล่นค่อนข้างน้อย มีแค่ 3 ตัวเลือก
วิธีการแนะนำข้างต้นนี้ก็สุดแล้วแต่นักพนันทั้งหลายจะพิจารณา ล้วนแล้วอยู่ที่การเล่นของแต่ละคน ที่แตกต่างกันออกไป แต่ขอบอกเลยว่า ท่านใด ที่ชอบเกมส์ไว ได้ไว รวดเร็วทันใจแน่นอนกับ pussy888
ที่มา "https://pussy888.live/"